เอนไซม์ธรรมชาติ เพื่อสุขภาพการย่อยที่ดี

เนื้อหา
เอนไซม์ โคเอ็นไซม์ และโคแฟคเตอร์: 3 สิ่งสำคัญที่ขับเคลื่อนทุกระบบการทำงานของร่างกาย
ระบบย่อยอาหารของเราเปรียบเสมือนสนามกีฬาโอลิมปิกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันเพื่อย่อยอาหาร เอนไซม์ โคเอ็นไซม์ และโคแฟคเตอร์ ต่างมีบทบาทสำคัญ เปรียบเสมือนนักกีฬา โค้ช และอุปกรณ์กีฬาที่ทำงานร่วมกันเพื่อคว้าเหรียญทอง
1. เอนไซม์: นักกีฬาผู้ทุ่มเท
เอนไซม์ เปรียบเสมือนนักกีฬาผู้ทุ่มเท ทำหน้าที่หลักในการย่อยอาหาร เปรียบเสมือนนักกีฬาที่ฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อลงแข่งขัน โดยเอนไซม์แต่ละชนิดมีความเฉพาะเจาะจงต่อสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น เปรียบเสมือนนักกีฬาที่เชี่ยวชาญกีฬาเฉพาะประเภท โดยร่างกายของเราสร้างเอนไซม์ได้เอง
2. โคเอ็นไซม์: โค้ชผู้ชาญฉลาด
โคเอ็นไซม์ เปรียบเสมือนโค้ชผู้ชาญฉลาด ทำหน้าที่ช่วยเอนไซม์เร่งปฏิกิริยาเคมี เปรียบเสมือนโค้ชที่วางแผนกลยุทธ์และให้คำแนะนำนักกีฬาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของนักกีฬา ร่างกายของเราสร้างโคเอ็นไซม์ได้เอง แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร
3. โคแฟคเตอร์: อุปกรณ์กีฬาที่ล้ำสมัย
โคแฟคเตอร์ เปรียบเสมือนอุปกรณ์กีฬาที่ล้ำสมัย ทำหน้าที่ช่วยเอนไซม์จับกับสารตั้งต้น เปรียบเสมือนอุปกรณ์กีฬาที่ช่วยให้นักกีฬาเล่นได้ดียิ่งขึ้น ร่างกายของเราได้รับโคแฟคเตอร์จากอาหาร
เมื่อเอนไซม์ โคเอ็นไซม์ และโคแฟคเตอร์ ทำงานร่วมกัน ระบบย่อยอาหารของเราก็มีประสิทธิภาพ ดูดซึมสารอาหารและพลังงานได้อย่างเต็มที่ เปรียบเสมือนทีมกีฬาที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
หากขาดส่วนใดส่วนหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะทานอาหาร หรือ อาหารเสริมที่ดีที่สุดอย่างไร ก็ไม่สามารถหวังผลได้
เอนไซม์ไม่ได้มีแค่หน้าที่ย่อยอาหารอย่างเดียว
เอนไซม์ : พลังมหัศจรรย์ที่ขับเคลื่อนร่างกายคุณ
เอนไซม์มักถูกเข้าใจผิดว่าทำหน้าที่ย่อยอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วเอนไซม์มีบทบาทสำคัญหลากหลายในร่างกายของเรา เปรียบเสมือนฟันเฟืองเล็กๆ ที่ขับเคลื่อนกลไกอันซับซ้อนของระบบต่างๆ มาดูกันว่าเอนไซม์ทำอะไรได้บ้างนอกเหนือจากการย่อยอาหาร
1. ควบคุมการทำงานของเซลล์ : เอนไซม์ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานและกลไกต่างๆ ภายในเซลล์
2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน : เอนไซม์บางชนิดมีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัส
3. ควบคุมระดับฮอร์โมน : เอนไซม์บางชนิดทำหน้าที่ควบคุมระดับฮอร์โมนในร่างกาย รักษาสมดุลของระบบต่างๆ
4. บำรุงผิวพรรณ : เอนไซม์บางชนิดช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และสารสำคัญอื่นๆ ในผิว ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง กระชับ และชะลอริ้วรอย
5. รักษาสมดุลของร่างกาย : เอนไซม์มีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของร่างกาย ควบคุมอุณหภูมิ ความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และอื่นๆ
กีวี ไม่ใช่มีดีแค่อร่อย แต่มีเอนไซม์ย่อยโปรตีน หรือ Protease สูง
ร่างกายของคนเรามีเอนไซม์อยู่มากมาย โดยเอนไซม์ในร่างกายไม่ได้มีหน้าที่เพื่อย่อยอาหารเพียงอย่างเดียว แต่เป็นกุญแจสำคัญในการเปิดการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย หมายความว่าร่างกายสร้างเอนไซม์เพื่อให้ร่างกายทำงานอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่ออายุมากขึ้น ประสิทธิภาพในการสร้างเอนไซม์ของคนเรากับน้อยลงตาม ปัญหาเบื้องต้นที่พบ คือ ปัญหาของระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีเอนไซม์จากธรรมชาติอยู่เสมอ ก็เปรียบเสมือนการทดแทนปริมาณเอนไซม์ที่ผลิตได้ลดลง เพื่อระบบทางเดินอาหารที่สมบูรณ์
การทานอาหารอุดมเอนไซม์ธรรมชาติเป็นประจำ เปรียบเสมือนการมอบกุญแจ เพื่อเปิดระบบให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา

Green Kiwi fruit
กีวี (Green Kiwifruit) ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย เปรี้ยวหวาน สดชื่น แต่รู้หรือไม่ว่ากีวีไม่ได้มีดีแค่รสชาติ แต่ยังอุดมไปด้วย Protease เอนไซม์ย่อยโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย มาดูกันว่า Protease สูง ดีต่อร่างกายอย่างไร
1. ย่อยโปรตีนอย่างมีประสิทธิภาพ : Protease ช่วยย่อยโปรตีนจากอาหาร โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่ ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย
2. เสริมสร้างระบบย่อยอาหาร : Protease ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย เพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างราบรื่น
3. บำรุงผิวพรรณ : Protease ช่วยย่อยคอลลาเจนเก่า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง กระชับ ชะลอริ้วรอย
4. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน : Protease ช่วยย่อยโปรตีนของเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
5. ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง : Protease ช่วยย่อยโปรตีนที่เป็นพิษ ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังต่างๆ
เมล็ดกีวี ประโยชน์ที่คุณไม่เคยรู้
กีวี: ไม่ได้ดีแค่กับระบบย่อยอาหาร แต่ยังบำรุงผิวได้อีกด้วย!
รู้หรือไม่ว่านอกจากสารสกัดจากเมล็ดกีวีจะมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิวพรรณอีกด้วย
สารอาหารสำคัญจากเมล็ดกีวี:
-
- กรดไขมันโอเมก้า 3 ชนิด Alpha-Lipoic Acid (ALA): ควบคุมความมัน ลดการเกิดสิว
-
- วิตามินอีชนิด Tocotrienol: คงความชุ่มชื้นให้แก่ผิว รักษาความยืดหยุ่นของผิว
-
- สารต้านอนุมูลอิสระ Polyphenols และสาร Flavonoid: ต่อต้านริ้วรอย ลดรอยคล้ำ
สารอาหารสำคัญและประโยชน์ต่อการย่อยอาหาร

ผงกีวี (Kiwi Powder)
ผงกีวี (Kiwi Powder) : เอนไซม์ Actinidin ช่วยย่อยโปรตีน ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องระบบย่อยอาหารจากความเสียหาย

ผงมะละกอ (Papaya Powder)
ผงมะละกอ (Papaya Powder) : เอนไซม์ Papain ช่วยย่อยโปรตีน ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ มีวิตามินซีและวิตามินเอ ช่วยบำรุงระบบย่อยอาหาร

สารสกัดจากข้าว (Rice Extract)
สารสกัดจากข้าว (Rice Extract) : มีสาร Gamma-Aminobutyric Acid (GABA) ช่วยผ่อนคลายลำไส้ ลดอาการท้องเสีย สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องระบบย่อยอาหารจากความเสียหาย

สารสกัดจากสับปะรด (Pineapple Extract) : เอนไซม์ Bromelain ช่วยย่อยโปรตีน ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องระบบย่อยอาหารจากความเสียหาย สรรพคุณต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการลำไส้แปรปรวน

แหล่งอาหารที่พบ บาซิลลัส โคแอกกูแลน (Bacillus coagulans)
บาซิลลัส โคแอกกูแลน (Bacillus coagulans) : โพรไบโอติกส์ ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ลดอาการท้องเสีย ท้องผูก นอกจากนี้ยังเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้น
คนที่ต้องใส่ใจกับปัญหาการย่อย
🌻 ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ
🌻 ผู้ที่มีอาการลำไส้แปรปรวน
🌻 ผู้ที่ทานอาหารหนัก อาหารมื้อดึก
🌻 ผู้สูงอายุที่มีระบบย่อยอาหารเสื่อมถอย
🌻 ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างสุขภาพระบบย่อยอาหาร
🌻 ผู้ออกกำลังกายที่รับประทานโปรตีนปริมาณมาก
ผลิตภัณฑ์ที่่แนะนำ






🌱 Rice Protein โปรตีนข้าว ในพืชตระกูลข้าวจะมีสารอาหารหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากข้าวจะเป็นแหล่งของพลังงานที่สำคัญจากสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตแล้ว ข้าวยังมีโปรตีนเป็นส่วนประกอบมากถึง 15% และอีกหนึ่งสารสำคัญจากโปรตีนในข้าวนี้ก็คือ เอนไซม์จากธรรมชาติซึ่งมีหน้าที่ในการช่วยให้เอนไซม์อะไมเลสในร่างกายสามารถย่อยอาหารจำพวกแป้งได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยเอนไซม์จากข้าวจะกระตุ้นให้อาหารจำพวกแป้งเกิดกระบวนการ Gelatinization

🌱 Wheatgrass หรือสารสกัดต้นกล้าอ่อนข้าวสาลี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Triticum aestivum เป็นพืชที่มีสารอาหารสูงทั้งอุดมไปด้วย เอ็นไซม์ โปรตีน และวิตามินต่างๆทั้ง A, C, E และแร่ธาตุเหล็ก, แมกนีเซียม, แคลเซียม รวมไปถึงมีกรดอะมิโนจำเป็นถึง 17 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่เข้มข้น เนื่องจากกระตุ้นการทำงานทั้ง Glutathione และ Vitamin C จึงมีส่วนช่วยลดอนุมูลอิสระที่จะมาทำลายเซลล์ในร่างกายได้ จึงช่วยลดความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของ Digestive enzymes หลายชนิดทั้ง Amylase (สำหรับย่อยแป้ง), Protease (สำหรับย่อยโปรตีน), Lipase (สำหรับย่อยไขมัน) จึงสามารถย่อยอาหารเพื่อให้ร่างกายดูดซึมนำไปใช้ และลดการเบียดเบียนการทำงานของ metabolism enzymes

🌱Broccoli บรอกโคลี มีสารสำคัญที่ชื่อ Sulforaphane คือ สารประกอบที่มีกำมะถันอยู่ในโมเลกุล ทำหน้าที่ในการปกป้อง DNA ไม่ให้ถูกทำลาย และยังมีการส่งเสริมการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังอย่างมากในร่างกาย เช่น Glutathione, Thioredoxin และ NQO-1 เป็นต้น ส่งผลให้ตับทำงานกำจัดสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น จึงเป็นการช่วยปกป้องอนุมูลอิสระไม่ให้ทำลายเซล์ในร่างกายเราได้อย่างเข้มแข็ง

🌱 Shiitake Mushroom เห็ดชิตาเกะหรือเห็ดหอม จัดเป็นหนึ่งในเห็ดที่ใช้ทางการแพทย์ เนื่องจากมีงานวิจัยที่ระบุว่าเห็ดชนิดนี้มีสารสำคัญที่ชื่อ Beta-D-glucan ซึ่งเป็นสาร Polysaccharide ชนิดหนึ่ง ที่มีส่วนช่วยส่งเสริมให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น และคอยช่วยควบคุมระบบภูมิคุ้มกันไม่ให้ทำงานมากเกินไป นอกจากนี้เห็ดชิตาเกะยังมีสารอาหารที่แตกต่างจากเห็ดชนิดอื่นๆ คือ วิตามินบี2 บี5 และบี6 เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี และยังมีแร่ธาตุต่างๆ เช่น แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ซีลีเนียม ทองแดง สังกะสี แมกนีเซียม เป็นต้น

🌱 Ganoderma lucidum หรือ เห็ดหลินจือ เป็นที่รู้กันดีว่าทั้งชาวจีนและชาวญี่ปุ่นใช้เห็ดชนิดนี้เป็นยามาหลายพันปี โดยเห็ดชนิดนี้มีสารสำคัญหลากหลายนอกจาก สาร Polysaccharide ชนิด Beta-D-glucan ที่ช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน และยับยั้งการทำงานของเซลล์มะเร็งแล้ว ยังมีสารกลุ่ม Triterpenoids หลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ รวมทั้งยังมีสารที่โดดเด่นในกลุ่มนี้ คือ กรดกาโนเดอริค (Ganoderic acid) และ ลูซิเดอนิค (Lucidenic acid) ที่มีคุณสมบัติเป็นตัวยับยั้งการหลั่งของสารฮีสตามีน ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง, ช่วยลดความดันโลหิต และช่วยลดไขมันในเลือด จึงช่วยลดการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด และการบำบัดรักษาหลังจากเกิดการอุดตันแล้ว

🌱 Maitake Mushroom หรือ เห็ดไมทาเกะ เห็ดไมทาเกะมีสารสำคัญที่ชื่อ Grifolan จัดเป็น Beta glucan Polysaccharide ชนิดหนึ่ง มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า Grifolan สามารถกระตุ้นเซลล์แมคโคฟาจ (macrophage) ซึ่งเปรียบเสมือนตำรวจคอยตรวจสอบและจัดการผู้ร้ายที่จะมาทำลายเซลล์ในร่างกายเรา นั่นคือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบภูมิคุ้มกันในการดักจับสิ่งแปลกปลอมต่างๆในระดับเซลล์ จากการวิจัยพบว่าการให้สารสกัดเห็ดไมทาเกะในการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งกระดูก ให้ผลการรักษาที่ดีขึ้น และยังสามารถลดผลข้างเคียงของการได้รับเคมีบำบัดได้ เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ผมร่วง ระดับเม็ดเลือดขาวต่ำ เป็นต้น

🌱 Cordyceps sinensis หรือ ถั่งเช่า เป็นสมุนไพรเก่าแก่ของจีน เดิมนำมาใช้เฉพาะราชนิกูลในการเพิ่มสมรรถนะในร่างกาย เพิ่มพลังงาน ต้านการอ่อนเพลีย ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ปอด ไต และภูมิคุ้มกัน มีการศึกษาที่มีข้อมูลว่าการรับประทานอาหารเสริมจากถั่งเช่าทำให้เพิ่มฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ นอกจากนี้ถั่งเช่ายังช่วยขยายหลอดเลือด จึงช่วยลดความดันโลหิตได้ อีกทั้งมีงานวิจัยที่พบว่าถั่งเช่าช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิด T-helper cell, Natural killer cell (NK cell) ในการต่อต้านเชื้อโรคและเซลล์แปลกปลอมและสามารถยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวในคน และกระตุ้นให้ระบบภูมิต้านทานต่อต้านมะเร็งได้เต็มที่

🌱 Celery หรือ ขึ้นฉ่ายฝรั่ง เป็นผักชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณทางยามากมาย มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม โพแทสเซียม วิตามินซี และหากรับประทานร่วมกับอาหารที่มีไขมันจะทำให้ได้รับเบตาแคโรทีนที่ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็น9สารต้านอนุมูลอิสระตัวสำคัญ ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ขึ้นฉ่ายฝรั่งยังมีสารฟลาโวนอยด์ชื่อ เอพิจีนิน (Epigenin) ที่มีคุณสมบัติในการลดสารที่ก่อให้การอักเสบในเลือด ลดภาระของระบบภูมิคุ้มกัน และจากผลการทดลองของนักวิจัยพบว่า ขึ้นฉ่ายฝรั่งอาจมีส่วนในการลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งรังไข่ได้ อีกทั้งขึ้นฉ่ายฝรั่งมยังมีน้ำมันหอมระเหย ลิโมนีน (Limonene) และซีลินีน (Selinene) มีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหาร ลดอาการจุกเสียด ขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ และยังมีสารประกอบ 3 n-butyl phthalide หรือสารทาไลด์ เป็นสารอีกชนิดที่ทำให้ขึ้นฉ่ายมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีฤทธิ์เป็นยาระงับประสาท ช่วยให้หลับสบาย ลดปริมาณคอเลสเตอรอลและช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย
เอนไซม์จากจุลินทรีย์ (Microorganism Enzyme) ในการนี้ควรจะต้องมีการคัดสายพันธุ์เพื่อให้เหมาะสมกับเอนไซม์ที่ได้ด้วย เอนไซม์จากแบคทีเรียบางชนิดที่มีประโยชน์ ซึ่งสามารถทนกรด(ได้ถึง pH 1.5) ทนด่าง(ได้ถึง pH 9.5) ทนความร้อนได้ที่อุณหภูมิถึง 65 องศาเซลเซียส ทนคลอรีน ทนความเค็ม และสามารถเจริญได้ในที่ที่มีออกซิเจนต่ำได้ เช่น