ก็แค่วิตามินรวมและเกลือแร่

เนื้อหา
ทำไมวิตามินและเกลือแร่จึงสำคัญต่อร่างกาย
ร่างกายต้องการ วิตามินและเกลือแร่ เพื่อช่วยให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา หรือช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ หากขาดสารอาหารเหล่านี้ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว
ทุกวันนี้ โรคภัยต่างๆ อาจดูใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกวัน โรคต่างๆ สามารถเกิดขึ้นกับคนอายุน้อยลง แม้วัยรุ่นก็อาจป่วยหนักได้ โดยมีปัจจัยทั้งเรื่องของมลภาวะ และอาหารที่เปลี่ยนไป คุณค่าของสารอาหารเกิดการสูญเสียไปกับการปรุงและการเก็บรักษา จนเราแทบจะได้กินแต่อาหารแช่แข็งที่ไร้ประโยชน์ พร้อมได้สารตกค้างเข้าไปอีกเป็นของแถม ประกอบกับสภาพความเป็นอยู่ของคนในสังคมที่ต้องเร่งรีบแข่งขัน อาหารที่ถูกปรับแต่งจนสารอาหารแทบไม่เหลือ อาหารเพื่อสุขภาพก็แพงหูฉี่ มีทางออกไหนไหมที่จะทำให้เราได้ “สารอาหารครบจบจากธรรมชาติ” และเด็กสมัยนี้ก็เลือกทานขึ้นเยอะ เลือกแต่อาหารฟาสฟู๊ด กินบุฟเฟ่ต์ เลือกกินแต่เนื้อๆจะได้คุ้มๆ อาหารแปรรูป อาหารแช่แข็ง ย่อยก็ยาก ไม่ค่อยกินผักอีก โรคทางเดินอาหารและภูมิแพ้ถามหาเป็นปกติ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้ตัวว่าไม่สามารถทานสารอาหารได้ครบเพียงพอจากอาหารปกติ คุณควรต่อพิจารณาเลือกวิตามินรวมและเกลือแร่ เพื่อช่วยเติมเต็มวิตามินและเกลือแร่ให้ครบถ้วน เสริมที่ได้รับจากการทานอาหาร แล้วเราจะเลือกทานวิตามินรวมทั่วๆไปก็เพียงพอหรือ?
วันนี้เราจะมาให้ข้อมูลสารอาหารที่คุณควรพิจารณาเลือกทานวิตามินรวมและสารอาหารอื่นๆที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบันนี้

¤ เราคงต้องเลือกวิตามินรวมและเกลือแร่ที่สำคัญต่อร่างกายให้ครบเป็นหลัก ได้แก่
-
- กรดแอสคอร์บิก (วิตามินซี) / Ascorbic Acid (Vitamin C)
- โซเดียม แอสคอร์เบต / Sodium Ascorbate
- ดีแอล-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซีเทต (50%) (วิตามิน อี) / Dl-Alpha-Tocopheryl Acetate (50%) (Vitamin E)
- ไนอะซินาไมด์ (วิตามิน บี3) / Niacinamide (Vitamin B3)
- ดี-แพนโททีเนต, แคลเซียม (วิตามิน บี5) / D-Pantothenate, Calcium (Vitamin B5)
- วิตามินเอ แอซีเทต / Vitamin A Acetate
- ไพริดอกซีน ไฮโดรคลอไรด์ (วิตามิน บี6) / Pyridoxine Hydrochloride (Vitamin B6)
- วิตามิน ดี3 / Vitamin D3
- ไรโบฟลาวิน (วิตามิน บี2) / Riboflavin (Vitamin B2)
- ไทอะมีน โมโนไนเตรต (วิตามิน บี1) / Thiamine Mononitrate (Vitamin B1)
- วิตามิน เค1 (5%) / Vitamin K1 (5%)
- กรดโฟลิก / Folic Acid
- ไบโอติน / Biotin
- ไซยาโนโคบาลามิน (วิตามิน บี12) (0.1%) / Cyanocobalamin (Vitamin B12) (0.1%)
¤ หากเราทานแต่วิตามินรวมและเกลือแร่ตามระบบทั่วไปอาจมีวิตามินบางอย่างไม่เพียงพอ เราควรต้องเติมสารอาหารอื่นๆ อย่างเช่น

• Larch Arabinogalactan อะราบิโนกาแล็กแทน / Arabinogalactan -ช่วยดูแลระบบภูมิต้านทานอย่างเป็นธรรมชาติ
– กระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด (Innate Immune)
– กระตุ้นภูมิคุ้มกันแบบเจาะจง (Adaptive Immune)
– ส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ (Support Healthy Microbiome)

• สารสกัดจากอะเซโรล่า เชอร์รี่ / Acerola Cherry Extract แหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ คือ วิตามินซี และไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
Acerola เป็นผลไม้เมืองร้อนที่ทั่วโลกยอมรับว่า เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ คือ วิตามินซี มีโปรตีนและแร่ธาตุสูงโดยเฉพาะ เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
– อะเซโรลาเชอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง จึงช่วยเร่งการสร้างเสริมสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวเต่งตึง จึงทำให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัยและทำให้ผิวยังคงกระชับและยืดหยุ่นอยู่เสมอ
– ทำหน้าที่เป็นตัวสมานผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ บนผิวหนัง เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง
– อะเซโรลาเชอร์รี่สามารถช่วยเร่งการฟื้นฟูซ่อมแซมบาดแผล แผลไฟไหม้ แผลเป็น และกระทั่งรอยแตกลายได้ด้วย
– ชะลอการเสื่อมสภาพของผิว ช่วยต่อสู้กับรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ริ้วรอยร่องตื่น รอยตีนกา รอยใต้โหนกแก้ม จุดด่างดำ รอยหมองค้ำ ฯลฯ
– เป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวหนังของคุณจากการถูกทำลายได้ เนื่องจากอนุมูลอิสระเหล่านี้เป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรทำให้ผิวหนังอ่อนแอลงและถูกทำลายในที่สุด
– อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 และบี 3 ซึ่งทั้งหมดช่วยทำให้ผิวสวยงามและเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น
– หากคุณบริโภคอะเซโรลาเชอร์รี่เป็นประจำ จะพบว่าผิวของคุณจะขาวขึ้น กระจ่างใสขึ้น
– ปกป้องคุณจากรังสียูวีได้ โดยปริมาณวิตามินเอในอะเซโรลาเชอร์รี่จะช่วยปกป้องผิวหนังของคุณจากรังสีจากดวงอาทิตย์ที่เป็นอันตรายได้
– ช่วยทำให้ผิวหนังของคุณอิ่มน้ำและคงความชุ่มชื้นไว้ได้
– วิตามินซียังมีประสิทธิภาพในการกำจัดสิวและแผลเป็น เพราะมันช่วยเร่งกระบวนการสมานแผลและการลดรอยแดงของร่างกาย และวิตามินซีนี้ยังช่วยลด Cortisol ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความเครียด ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวอีก
• ผลไม้ตระกูลเบอรี่ต่างๆ เพื่อให้สารไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสร ลดการอักเสบในร่างกายและชะลอวัย









• เห็ด 5 ชนิด เพื่อกระตุ้นภูมิต้านทานให้แข็งแรงอยู่เสมอ





• โปรไบโอติกและพรีไบโอติก สร้างสมดุลในลำไส้ ลดการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ

• เอนไซม์จากโปรตีนข้าว ได้มาจากการหมักของแบคทีเรีย 5 ชนิด ช่วยสร้างสมดุลการย่อยและล้างสารพิษออกจากร่างกาย

• ผงพืชผักผลไม้และสมุนไพร 17 ชนิดเพื่อให้สารไฟโตนูเทรียนส์ เพิ่มการดูดซึมของสารอาหาร และต้านอนุมูลอิสระ อย่างเช่น














• แคลเซียมจากสาหร่ายทะเล เพื่อรักษาสมดุลของแคลเซียมในเลือดและกระดูก ไม่ให้กระดูกพรุนและข้อเสื่อมก่อนวัย

ทีนี้คุณก็คงรู้แล้วว่า เราสามารถเลือกเติมสารอาหารได้จากแหล่งธรรมชาติไหนบ้าง ที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถนำวิตามินและเกลือแร่ พร้อมกับสารสำคัญจากแหล่งอาหารต่างๆ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ
-
PHYTOFOOD
Online Store฿439.00Original price was: ฿439.00.฿399.00Current price is: ฿399.00.หยิบใส่ตะกร้าให้คะแนน 0 ตั้งแต่ 1-5 คะแนน